1. คุกกี้แอ็ดเน็ทเวิร์ค คืออะไร
คุกกี้แอ็ดเน็ตเวิร์ก (Ad network cookies)
- โปรแกรมสายลับ หรือสปายแวร์ (Spyware) จะตรวจดูกิจกรรมที่ทำบนอินเทอร์เน็ตทั้งหมด
2. อาญชญากรรมหมายถึงอะไร
1. ทำลายคอมพิวเตอร์ โปรแกรม หรือไฟล์
- ไวรัส หรือเวิร์ม
- Denial of Service attack
2. ขโมย
- ฮาร์ดแวร์ ข้อมูล เวลา
- การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
3. การเปลี่ยนแปลง
3. คุกกี้คัตเตอร์ คืออะไร
คุกกี้สามารถดู
- หน้าและจำนวนครั้งที่เราเข้าเยี่ยมชม
- ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ
4. ไฟร์วอลล์ หมายถึงอะไร
ตอบคือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย หน้าที่ของไฟร์วอลล์คือเป็นตัวกรองข้อมูลสื่อสาร โดยการกำหนดกฎและระเบียบมาบังคับใช้โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลระบบเครือข่าย โดยความผิดพลาดของการปรับแต่งอาจส่งผลทำให้ไฟล์วอลล์มีช่องโหว่ และนำไปสู่สาเหตุของการโจรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้
5. สนุ้ปแวร์ หมายถึงอะไร
สำหรับตรวจสอบการทำงานของพนักงานบริษัท เช่น การแอบดูอีเมลหรือแฟ้มข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน
6. เวิร์ม หมายถึงอะไร
ตอบเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอกตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป และสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ ไม่ว่าจะเป็นOutlook Express หรือ Microsoft Outlook เช่น เมื่อมีผู้ส่งอีเมล์และแนบโปรแกรมติดมาด้วย ในส่วนของ Attach file ผู้ใช้สามารถคลิ๊กดูได้ทันที การคลิ๊กเท่ากับเป็นการเรียกโปรแกรมที่ส่งมาให้ทำงาน ถ้าสิ่งที่คลิ๊กเป็นเวิร์ม เวิร์มก็จะแอกทีฟ และเริ่มทำงานทันที โดยจะคัดลอกตัวเองและส่งจดหมายเป็นอีเมล์ไปให้ผู้อื่นอีก
7. แฮกเกอร์ หมายถึงอะไร
บุคคลผู้ที่เป็นอัจริยะ มีความรู้ในระบบคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี สามารถเข้าไปถึงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ โดยเจาะผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ของคอมพิวเตอร์ได้ กลุ่มพวกนี้จะอ้างว่า ตนมีจรรยาบรรณ ไม่หาผลประโยชน์จากการบุกรุกและประณามพวก Cracker"
8. แครกเกอร์ หมายถึงอะไร
การก่ออาชญากรรมทางโลกไซเบอร์ มีลักษณะคล้ายกกับแฮกเกอร์แต่แตกต่างกันตรงความคิดและเจตณา แฮกเกอร์ คือผู้ที่นำความรู้ในการแฮกไปใช้ในทางที่มีประโยชน์ ส่วนแครกเกอร์ คือผู้ที่นำความรู้ในการแฮกไปใช้ในการทำความผิด เช่น การขโมยข้อมูล การทำลายข้อมูล หรือแม้กระทั่งการครอบครองคอมพิวเตอร์คนอื่น
9.โปรแกรมตรวจสอบไวรัส มีโปรแกรมอะไรบ้าง ตอบมาอย่างน้อย 5 โปรแกรม
1. Kaspersky Free Antivirus
2. Avast Free Full Antivirus
3. Norton AntiVirus 2012
4. Microsoft Security Essentials
5. AVG Free Anti-Virus
10. การโจมตีเพื่อทำให้ปฏิเสธการบริการ หมายถึงอะไร
แสดงน้อยลงเป็นความพยายามทำให้เครื่องหรือทรัพยากรเครือข่ายสำหรับผู้ใช้เป้าหมายใช้บริการไม่ได้ เช่น ขัดขวางหรือชะลอบริการของแม่ข่ายที่เชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ตอย่างชั่วคราวหรือถาวร
เขียนโดย เพ็ญนภา มีคำ ที่ 21:50 1 ความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้
BlogThis!
แชร์ไปที่ Twitter
แชร์ไปที่ Facebook
แชร์ใน Pinterest
แบบทดสอบปลายเปิดบทที่10 (1)
แบบทดสอบปลายเปิดบทที่10 (1)
คำสั่ง จงอธิบายคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ให้สมบูรณ์
1. อภิปรายความสัมพันธ์ระหว่างฐานข้อมูล และภาวะส่วนตัว
ภาวะส่วนตัว เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
• การใช้งานที่ควรตระหนัก ได้แก่
– ฐานข้อมูลขนาดใหญ่
– สิทธิส่วนบุคคล
– อินเทอร์เน็ต และเว็บ
• ภาวะส่วนตัวเป็นประเด็นหลักของจริยธรรมทางคอมพิวเตอร์
• สำหรับประเทศไทยอยู่ในระหว่างการดำเนินการออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ร่างกฎหมายโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ - เนคเทค)
ฐานข้อมูลขนาดใหญ่
• บางหน่วยงานของรัฐบาลและเอกชนจะมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของแต่ละบุคคลไว้
• ผู้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่
– หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบ
– ผู้ขายข้อมูล (information re-seller หรือ information broker)
• การกระทำที่ไม่ถูกต้อง
– การแพร่กระจายข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ
• โจรสวมรอย (identity theft)
– การแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
• คุณลักษณะที่ผิดพลาด (mistaken identity)
สิทธิส่วนบุคคล
• การแอบดูการทำงานของลูกจ้าง การแอบดูไฟล์หรืออีเมล์
– ใช้โปรแกรมสนู้ปแวร์ (snoop ware)
• การตรวจสอบเนื้อหาโดยผู้ให้บริการ
– กลั่นกรองและปฏิเสธข้อมูล
– ยกเลิกรหัสผู้ใช้
อินเทอร์เน็ตและเว็บ
• ความลวงของการไม่มีตัวตน (illusion of anonymity)
– การไม่ใช้ชื่อ-นามสกุลหรือข้อมูลส่วนตัวจริง
– ไม่สนใจในภาวะส่วนตัวเมื่อท่องอินเทอร์เน็ต หรือส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
• ไฟล์ประวัติ (history file)
• คุกกี้ (cookies)
– คุกกี้แบบดั้งเดิม (traditional cookies)
– คุกกี้แอ็ดเน็ตเวิร์ก หรือคุกกี้แอ็ดแวร์ (ad network cookies หรือ adware cookies)
• โปรแกรมสายลับ (spyware)
• โปรแกรมต่อต้านหรือกำจัดโปรแกรมสายลับ (anti-spyware program หรือ spy removal program)
2. อธิบายเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ชนิดต่างๆ
อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้แก่
1.การเงิน – อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจในการทำธุรกรรม อี-คอมเมิร์ซ(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)
2.การละเมิดลิขสิทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมายรวมถึง การละเมิดลิขสิทธิ์ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์
3.การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การเจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การก่อการร้าย ฯลฯ)
4.การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่วไป โดยการกระทำที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน หรืออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว
5.ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกำหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผลหรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตามข้อกำหนด 47 USC 223 การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารในรูปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางใหม่สำหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่องวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง
6.ภายในโรงเรียน – ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่เยาวชนจำเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดยเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด
3. มาตรการการป้องกันความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ที่สำคัญมีอะไรบ้าง การเข้าถึงรหัสคืออะไร บริษัท หรือบุคคลจะใช้ได้อย่างไร
หลักการแนวคิด 5 ข้อที่เกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมที่สำคัญเพื่อการปกป้องระบบคอมพิวเตอร์
1. Offense informs defense: ถ้าหากเราทราบถึงวิธีหรือขั้นตอนในการกระทำผิดนั้นๆ และเราก็จะทราบทราบถึงวิธีการป้องกันการกระทำผิดเหล่านั้นด้วย
2. Prioritization: ให้ลำดับความสำคัญที่จะดำเนินการกับความเสี่ยงที่สำคัญๆ ก่อน หรือทำการป้องกันในจุดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง ตามลำดับก่อนหลัง
3. Metrics: นำเสนอข้อมูลตัวชี้วัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลค่าความเสียหายหากถูกโจมตีจากจุดอ่อนต่างๆ ความสำคัญของระบบ หรือข้อมูลในองค์กร และ ข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถประเมินได้ให้กับผู้บริหาร ฝ่ายไอที ผู้ตรวจสอบ และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยเพื่อช่วยกันประเมินและปรับปรุงข้อมูลเหล่าตัวชี้วัดนั้นได้รวดเร็วขึ้น
4. Continuous monitoring: ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อทดสอบและตรวจสอบประสิทธิผลของมาตรการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบัน
5. Automation: ระบบอัตโนมัติสามารถเชื่อถือได้ และทำการขยายขีดความสามารถ รวมทั้งตรวจวัดได้อย่างต่อเนื่อง ตามข้อควรปฏิบัติในระเบียบวิธีการควบคุม และตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง
4. การยศาสตร์คืออะไร การใช้คอมพิวเตอร์มีผลต่อสุขภาพด้านจิตใจ และร่างกายอย่างไร มีขั้นตอนที่จะลดความเครียดจากเทคโนโลยีได้อย่างไร
ตอบการยศาสตร์ (Ergonomics)
การยศาสตร์หมายความว่า “ศาสตร์ในการจัดสภาพงานให้เหมาะกับคนทำงาน“หรือ “การศึกษาคนในสิ่งแวดล้อมการทำงาน“ นั่นเอง และอีกความหมายหนึ่ง การยศาสตร์ คือ การศึกษาสภาวะแวดล้อมของการทำงาน โดยใช้หลักคิดว่า "เราจะทำให้คนทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร" การจัดสภาพแวดล้อมอย่างไร ที่จะทำให้คนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจ่ายค่าแรงน้อยที่สุด ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด เพื่อให้ผลผลิตออกมามากที่สุด หรือพูดอีกอย่างว่าทำให้งานนั้นมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ไปพร้อม ๆ กัน ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน และได้มีสหภาพแรงงานเกิดขึ้น สำหรับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization, ILO ) ได้ให้คำจำกัดความของการยศาสตร์ไว้ว่า “การประยุกต์ใช้วิชาการทางด้านชีววิทยาของมนุษย์ และวิศวกรรมศาสตร์ให้เข้ากับคนงานและสิ่งแวดล้อมในการทำงานของเขา เพื่อให้คนงานเกิดความพอใจในการทำงาน และได้ผลผลิตสูงสุด” ดังนั้น การยศาสตร์จึงเป็นวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการปรับงานให้เข้ากับความสามารถทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีผู้ให้ความหมายของ “ เออร์โกโนมิคส์ “ ในเชิงปฏิบัติว่าคือ ”การศึกษาเกี่ยวกับการประสานกัน หรืออันตรกิริยาระหว่างมนุษย์และเครื่องมืออุปกรณ์ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์ทำงานอยู่“ ความหมายนี้ดูเหมือนจะครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดไว้แล้ว คือ มนุษย์ เครื่องมืออุปกรณ์ สิ่งแวดล้อมและอันตรกิริยาที่ซับซ้อนระหว่างปัจจัยทั้งสามนี้ ความหมายของคำว่า “ เออร์โกโนมิคส์ “อีกอย่างหนึ่งที่ขยายความเพิ่มขึ้นจากที่กล่าวมาแล้ว โดยครอบคลุมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องมืออุปกรณ์ สถานีงาน ( workstation ) และระบบงาน ( work system ) เพื่อให้บุคคลผู้ใช้ผู้ทำงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
5. ในฐานะผู้ใช้อคอมพิวเตอร์ คุณจะมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไร
5.1บริษัทสนับสนุนส่งเสริมให้พนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยยึดหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณที่ดี ทั้งการ
ปฎิบัติหน้าที่ภายในบริษัท และภายนอกบริษัท
5.2บริษัทถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงมีหน้าที่สนับสนุนและพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อความอยู่รอดในระยะยาวของบริษัท
5.3บริษัทจัดสรรงบประมาณประมาณ 1% ของกำไรสุทธิ และสนุบสนุนให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆที่ช่วยสนับสนุนและพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดูแลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม
5.4บริษัทให้ความร่วมมือและสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการป้องกัน ปิดกั้น ต่อต้านการกระทำที่ผิดกฏหมาย โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับกิจการบริษัท
5.5บริษัทส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในภาพรวมทุกๆด้าน เช่น การจัดการด้านสภาพแวดล้อมการทำงาน การพัฒนาความรู้ การส่งเสริมบรรยากาศการทำงานที่มีความรักใคร่สามัคคี การดูแลด้านสุขภาพและพลานามัย